ทุกคนที่ใช้ “สิทธิบัตรทอง 30 บาท” หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รู้ไหมว่า ทุกวันนี้เราสามารถเข้ารับบริการการตรวจ การวินิจฉัย และการรักษาตั้งแต่โรคทั่วไปอย่างโรคไข้หวัด ไปจนถึงการรักษาโรคเรื้อรัง หรือโรคเฉพาะทางที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคเอชไอวี วัณโรค ฯลฯ ได้เลยนะ
อีกทั้ง ในส่วนของหญิงตั้งครรภ์สามารถรับบริการการคลอดบุตรได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งอีกด้วย
มากไปกว่านั้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกระบวนการรักษา ไม่ว่าจะเป็นค่ายาและเวชภัณฑ์ตามกรอบบัญชียาหลักแห่งชาติ และยาที่มีค่าใช้จ่ายสูงตามประกาศของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ค่าอาหารและค่าห้องสามัญระหว่างการพักรักษาตัวที่หน่วยบริการ แม้กระทั่งกรณีการจัดการการส่งต่อเพื่อรักษาระหว่างหน่วยบริการก็ครอบคลุมด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีบริการทันตกรรมที่ครบวงจรทั้ง อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน การให้ฟลูออไรด์เสริมในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคฟันผุ การรักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม การเคลือบหลุมร่องฟัน การผ่าฟันคุด ใส่เพดานเทียมเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ และการทำฟันปลอมฐานพลาสติก ก็สามารถทำได้ฟรีเลย
รวมไปถึง ถ้าใครอยากรับการรักษาแบบการแพทย์แผนไทย ก็สามารถทำได้ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ โดยมีบริการดังนี้ ยาสมุนไพรหรือยาแผนไทย การนวดเพื่อการรักษาและทับหม้อเกลือ ฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอด และการอบหรือประคบสมุนไพรเพื่อการรักษา
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์เพื่อรองรับในส่วนของคนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ซึ่งมีทั้งกายภาพบำบัด จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด กิจกรรมบำบัด ฟื้นฟูการได้ยิน ฟื้นฟูการมองเห็น และรับอุปกรณ์เครื่องช่วยตามประเภทความพิการ โดยจะเป็นไปตามเกณฑ์ที่ สปสช. กำหนด
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือ หากทุกคนไปรับบริการรักษาพยาบาลและได้รับยาจากโรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลชุมชนขึ้นไป (มีเตียงนอน 10 เตียงขึ้นไป) จะต้องจ่ายเงินจำนวน 30 บาทต่อครั้ง ยกเว้นบุคคล 20 กลุ่มตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้ที่มีความประสงค์ไม่จ่ายค่าบริการ 30 บาท สามารถแจ้งความจำนงไม่จ่ายค่าบริการได้ที่หน่วยบริการ
มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้างที่ไม่ครอบคลุม
1.เพื่อความสวยงาม โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
2.การตรวจวินิจฉัย และการรักษาที่เกินความจำเป็นจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
3.การรักษาที่อยู่ระหว่างการค้นคว้าทดลอง
4.การปลูกถ่ายอวัยวะที่ไม่ปรากฏตามบัญชีแนบท้าย
5.การบริการทางการแพทย์อื่น ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กำหนด
รวมไปถึง ถ้าใครอยากรับการรักษาแบบการแพทย์แผนไทย ก็สามารถทำได้ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ โดยมีบริการดังนี้ ยาสมุนไพรหรือยาแผนไทย การนวดเพื่อการรักษาและทับหม้อเกลือ ฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอด และการอบหรือประคบสมุนไพรเพื่อการรักษา
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านการแพทย์เพื่อรองรับในส่วนของคนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู ซึ่งมีทั้งกายภาพบำบัด จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด กิจกรรมบำบัด ฟื้นฟูการได้ยิน ฟื้นฟูการมองเห็น และรับอุปกรณ์เครื่องช่วยตามประเภทความพิการ โดยจะเป็นไปตามเกณฑ์ที่ สปสช. กำหนด
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้ไว้คือ หากทุกคนไปรับบริการรักษาพยาบาลและได้รับยาจากโรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลชุมชนขึ้นไป (มีเตียงนอน 10 เตียงขึ้นไป) จะต้องจ่ายเงินจำนวน 30 บาทต่อครั้ง ยกเว้นบุคคล 20 กลุ่มตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้ที่มีความประสงค์ไม่จ่ายค่าบริการ 30 บาท สามารถแจ้งความจำนงไม่จ่ายค่าบริการได้ที่หน่วยบริการ
มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้างที่ไม่ครอบคลุม
1.เพื่อความสวยงาม โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
2.การตรวจวินิจฉัย และการรักษาที่เกินความจำเป็นจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
3.การรักษาที่อยู่ระหว่างการค้นคว้าทดลอง
4.การปลูกถ่ายอวัยวะที่ไม่ปรากฏตามบัญชีแนบท้าย
5.การบริการทางการแพทย์อื่น ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กำหนด
ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง ประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ได้ที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
***4 วิธีเช็คสิทธิรักษาพยาบาล ทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง***
1.โทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 2
2.เว็บไซต์ สปสช. https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
3.แอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนู ตรวจสอบสิทธิตนเอง
4.ไลน์ สปสช. @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เลือกเมนู ตรวจสอบสิทธิ
No comments:
Post a Comment