รวมพลคนหัวใจสีเขียวปั่น วิ่ง เดินกับกิจกรรม “วันเขาใหญ่ปลอดรถ 2023 (Khao Yai Car Free Day 2023)” เพื่อขับเคลื่อนการลดปริมาณขยะ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน วางเป้าหมาย Car Free Zone ในอนาคตเพื่อ“เขาใหญ่ยั่งยืน” ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Once In A Life Time

Once In A Life Time

ก้าวไปกับเราครั้งหนึ่งในชีวิต

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, September 25, 2023

รวมพลคนหัวใจสีเขียวปั่น วิ่ง เดินกับกิจกรรม “วันเขาใหญ่ปลอดรถ 2023 (Khao Yai Car Free Day 2023)” เพื่อขับเคลื่อนการลดปริมาณขยะ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน วางเป้าหมาย Car Free Zone ในอนาคตเพื่อ“เขาใหญ่ยั่งยืน” ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่


















วันที่ 22 กันยายน ของทุกปี คือ วันปลอดรถ หรือ Car Free Day ที่ทั่วโลกรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ ซึ่งปีนี้ สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โครงการ “เขาใหญ่ กรีน & คลีน” สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ( สสปน.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท เป๊ปซี่ - โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด ธนาคารออมสิน สมาคมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพปากช่อง  สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชมรมฮักเขาใหญ่ มูลนิธิอมตะ  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ศูนย์ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลตำบลหมูสี  วัดหมูสี สมาคมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชุมชนไทย และกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่  ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอปากช่อง  Recycle Day    บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย )จำกัด บริษัท เอ็มเอ็มพีแพ็คเกจจิ้งกรุ๊ป จำกัด  เบทาโกร   The Diplomat Network  เพื่อนช้างเขาใหญ่ นิสสัน มอเตอร์  HAUP ลิมอน วิลล่า  ฯลฯ ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนหลากหลายองค์กร จัดงานวันเขาใหญ่ปลอดรถ 2023 (Khao Yai  Car Free Day 2023) ในวันที่ 22 กันยายน 2566 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 


วัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อรณรงค์และทำให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากมลภาวะที่มีต่อสภาพแวดล้อมของเขาใหญ่ อันจะทำให้พื้นที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลก และมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม ได้สามารถพัฒนาศักยภาพในด้านอัตลักษณ์ วิถีชีวิต และเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของพื้นที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานมีการเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการขยะ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้วางแผนการจัดงานในรูปแบบของการจัดงานแบบปลอดขยะ (zero waste event) โดยได้รับการสนับสนุนจากเป๊ปซี่โค ประเทศไทย และ กลุ่มอาสาสมัครจากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับนักเรียนจากโรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม 


ในช่วงเช้า06.00-09.00น. คณะนักปั่นจักรยาน วิ่งและเดินรวมตัวกันหน้าด่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถ.ธนะรัชต์ โดยมีว่าที่ร้อยตรีพรสรร อุ่นบันเทิง เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ ผู้แทนนายอำเภอปากช่องกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมและนายธานนท์ โสภิชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1 ( ปราจีนบุรี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชร่วมปล่อยตัวคณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมและนำคณะเดินจนถึงจุดชมวิว(ก.ม.30) พร้อมกับตัวแทนจากมูลนิธิอารยะสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล โดยในภาคเช้านี้บรรยากาศการเดิน วิ่ง และปั่นขึ้นจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นไปอย่างชื่นมื่น  ส่วนใหญ่แล้วเดิน วิ่งขึ้นเป็นระยะทาง 7,14 กิโลเมตร นอกจากนี้ทางฝั่งด่านเนินหอม จ.ปราจีนบุรีก็มีนักปั่นเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมากเช่นกัน (ระยะทาง30กม.) ผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 700คน และอาสาสมัครชุมชน นักเรียนจากโรงเรียนอำเภอปากช่อง อาสาสมัครจากแดรี่โฮม สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย มูลนิธิสว่างวิชชาธรรม ฯลฯ รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยประมาณ1,000 คน 


เมื่อเวลา 09.30น.มีพิธีเปิดงานโดยนายนางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เดินทางมาจากทั้งสองฝั่ง,นายพฤติ เกิดชูชื่น ประธานที่ปรึกษาโครงการ “เขาใหญ่กรีน แอนด์ คลีน” สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ กล่าวถึงวัตถุประสงค์และความมุ่งหมายของการจัดงานนี้ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่สอง และมีความมุ่งหวังว่าจะสามารถลดการเกิดมลภาวะอันเกิดจากการเดินทางภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการพักผ่อนหย่อนใจเป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยอาจะมีพื้นที่ที่เป็น Car Free Zone  เกิดขึ้นเพื่อการพัฒนาไปสู่เป้าหมายการสร้างเมืองสีเขียวให้กับเขาใหญ่และพื้นที่โดยรอบ  


นอกจากนี้ประธานในพิธีนายธานนท์ โสภิชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1 ( ปราจีนบุรี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้กล่าวสนับสนุนว่าการจัดกิจกรรม “วันปลอดรถเขาใหญ่”ในครั้งนี้เป็นแนวคิดที่ดี พร้อมสนับสนุนเพื่อสร้างการตระหนักรู้ด้านการรักสิ่งแวดล้อม


ภายในงานยังได้รับเกียรติจากนางอูลล์เพียนา ลามาอุปทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคอซอวอประจำประเทศไทย เยี่ยมชมบูธต่างๆที่มาร่วมกิจกรรม อาทิ บูธของอีวี มี, สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ, สวทช.,มูลนิธิอมตะ,ธนาคารออมสิน,กลุ่มไม้ขีดไฟ,ชมรมฮักเขาใหญ่, ชมรมดาราศาสตร์ปากช่อง,  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (การเก็บข้อมูลและคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของกิจกรรม),Recycle Day, บูธกิจกรรมของโครงการ “Journey to Zero Wast”โดยบ.เป๊ปซี่โค ประเทศไทย  ร้านเป็นลาว แดรี่โฮม กินลมชมวิว ครัวบินหลา สวนเอเดน ออร์แกนิกส์ OTTO FARM ชีวาเวลเนส ฯลฯ 


นอกจากนี้นางสาวเกษณภา มหารัตนวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มอบต้นสาทร ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดนครราชสีมาให้แก่ผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมและได้นำคณะเพื่อร่วมกิจกรรมในโครงการ “ปลูกป่าล้านไร่เพิ่มพื้นที่สีเขียว”  ปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม ณ โรงเรียนบ้านหมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าเช่นนกเงือกที่ลงมากินผผลไม้ที่โรงเรียนเป็นประจำ  และยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชนในชุมชนได้เห็นคุณค่าและรักในทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีคณะครูและนักเรียนร่วมทำกิจกรรมปลูกป่าร่วมกับผู้แทนสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่ สมาคมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชุมชนไทย และกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ 


ภาคบ่ายเป็นกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “ผลกระทบจากมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมของเขาใหญ่:แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยความร่วมมือของภาคประชาชน ภาครัฐและการท่องเที่ยว” โดย รศ.ดร.วรวัฒน์ มีวาสนารองผู้อำนวยการเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี,โครงการ ANSEE Khao Yai, นายจิระวัฒน์ ภูมิศรีแก้ว ผู้อำนวยการด้านกิจการองค์กรและรัฐกิจ ประจำประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมา และนางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ดำเนินรายการโดยอาจารย์รัชฏาพร วิสุทธากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 


ผู้เข้าร่วมเสวนาต่างเห็นตรงกันว่า “เขาใหญ่” คือหมุดหมายสำคัญที่ควรกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายในการออกแบบให้เป็น “พื้นที่ต้นแบบ” GREEN MODEL หรือSpecial ECONOMIC GREEN ZONE  ผสานการใช้ประโยชน์อย่างมีสมดุล การสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน แนวคิดการประหยัดพลังงานด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์  การจัดการขยะ การบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการอนุรักษ์พื้นที่ป่าสร้างระบบนิเวศน์และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (SDGs) เพื่อความการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป 

FB:สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ 


#เขาใหญ่คาร์ฟรีเดย์2023

#สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่

#khaoyaicarfreeday2023

#khaoyaitourismassociation 

#worldcarfreeday2023

#วันปลอดรถเขาใหญ่2023





No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad