ศิลปะการแกะองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิถือเป็นศิลปะไทยชั้นสูงที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ กำลังเลือนหายเพราะมีความยากในการส่งต่อและหาผู้สืบทอด
นี่คือเรื่องราวของ คุณสุรพันธ์ อติชาตินันท์ หรือที่รู้จักกันในนาม อาจารย์แดง พัฒนช่าง ผู้สืบทอดรุ่นที่ 5 แห่งสายช่างหล่อหลวงจากต้นตระกูล พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ซึ่งปัจจุบันท่านคือเสาหลักสำคัญที่กำลังกำกับและรักษามรดกการแกะองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ งานช่างหล่อหลวงระดับสูงที่ต้องอาศัยความแม่นยำทางความจำและทักษะอันละเอียดประณีต
รากฐานช่างหล่อหลวง ศิลปะแห่งความทรงจำและฝีมือ งานแกะองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่มีความรุ่งเรืองอย่างมากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 โดยช่างในตระกูลของอาจารย์แดงเคยรับราชการใน กรมช่างหล่อหลวง และเป็นงานที่ทำขึ้นเพื่อเป็น พระแทนตัว ของพระมหากษัตริย์และเจ้านายชั้นสูง มีลักษณะเด่นคือ เครื่องทรงทั้งหมดเป็นแบบเดียวกับพระมหากษัตริย์ ประดับอยู่บนฐานชุกชีของพระแก้วมรกต
งานประเภทนี้แตกต่างจากงานช่างทั่วไป เพราะประกอบด้วยความซับซ้อนและรายละเอียดระดับสูงในทุกขั้นตอน
ความซับซ้อนของลวดลาย เป็นงานที่มี ลวดลายซ้อนระดับสูง ซึ่งต้องใช้ความประณีตตั้งแต่การสลักหินสบู่ลวดลายรัตนยุคต้นไปจนถึงการซ้อนชั้นลายบนตัวองค์ ระบบการหล่อโบราณ ต้องมีความเชี่ยวชาญในการวาง ทางน้ำทองและทางลมหนี เพื่อให้การเททองออกมาคมชัดทุกเส้นสาย ซึ่งระบบนี้ได้ถูกลืมเลือนไปแล้ว ความจำคือหัวใจ อาจารย์แดงเน้นย้ำว่างานชิ้นนี้ ไม่สามารถวาดแบบหรือคัดลอกจากตัวอย่างได้ ช่างต้องอาศัย ความจำในทุกรายละเอียด ตั้งแต่หัวจนถึงปลายฐาน "หากผิดเพียงเสี้ยวเดียว ผิดทั้งองค์"
การสูญหายของวิชาและอุปสรรคการสืบทอดวิชาช่างหล่อหลวงเริ่มขาดช่วงและเกิดความยากลำบากในการถ่ายทอดตั้งแต่ ปลายรัชกาลที่ 5 เมื่อกรมช่างหล่อหลวงล่มสลาย ทำให้ความรู้และทักษะที่เคยใช้คนจำนวนมากในอดีตต้องพึ่งพาผู้สืบทอดเพียงไม่กี่คนในปัจจุบัน
การศึกษาและฟื้นฟู เนื่องจากวิชาได้ขาดตอนไป ท่านอาจารย์แดงจึงต้องใช้เวลากว่า สามปี ในการทดลองฟื้นฟูทุกกรรมวิธีขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่การสลักหินสบู่จนถึงระบบการเททองโบราณ
อุปสรรคในการถ่ายทอด แม้จะเป็น "ผู้สืบทอดรุ่นที่ 5" แต่การถ่ายทอดในปัจจุบันเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะผู้ที่รับเข้ามาฝึกส่วนใหญ่ ไม่สามารถอดทนต่อความละเอียดระดับสูงของงานได้เกินหนึ่งเดือน
การธำรงรักษาคุณค่าแห่งชาติ
อาจารย์แดงยังคงทำงานด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ทั้งการปั้นต้นแบบ การสลักลาย และการคุมการเททอง เพื่อรักษามาตรฐานช่างหล่อหลวงให้คงคุณค่าเหมือนที่บรรพชนได้สร้างไว้ แต่ท่านยอมรับว่า ประเทศไทยยังหา ‘ผู้สืบทอดตัวจริง’ ไม่ได้เลย
นอกจากปัญหาความละเอียดของงานแล้ว ท่านยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาใหญ่คือ การขาดการสนับสนุน อย่างจริงจังจากหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสืบสานต่อ
"ผมไม่ได้อยากให้เก่งแค่ปั้นพระ ผมอยากให้รู้ว่าศิลป์นี้มีคุณค่ากับชาติแค่ไหน หากไม่มีคนสืบทอด มันก็หายไปจากบ้านเราไปตลอดกาล" อาจารย์แดง พัฒนช่าง กล่าวทิ้งท้าย
การสืบสานงานช่างหล่อหลวงนี้ จึงเป็น การธำรงรักษาคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนอย่างจริงจัง เพื่อให้ศิลปะชั้นสูงแห่งแผ่นดินไทยยังคงอยู่ต่อไป












No comments:
Post a Comment