เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำโดย คุณชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักกิจการและสื่อสารองค์กร ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ไปรษณีย์ไทย) บริษัท เอ็ชเอ็มซี โปลีเมอส์ จำกัด (HMC Polymers) บริษัท อีโคบลู จำกัด (EcoBlue) บริษัท นานมีอุตสาหกรรม จำกัด (นานมี) พันธมิตรในโครงการ “ล้านพลัง แต้มสีเติมฝันให้น้อง รร. ตชด.” พร้อมด้วย น้ำฝน-พัชรินทร์ วิทยาปัญญานนท์, แพม-ปาเมลา ปาสิเนตตี และป๊อปปี้-รัชพงศ์ อโนมกิติ จากรายการแซ่บพาซ่าส์ ส่งมอบชุดสีน้ำ จำนวน 5,000 ชุด ที่กล่องผลิตจากเม็ดพลาสติก PP รีไซเคิล ให้แก่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อส่งมอบต่อไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.ต.กัญชล อินทราราม รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้รับมอบ
จากการเปิดรับบรรจุภัณฑ์พลาสติก PP ใช้แล้ว (สัญลักษณ์เบอร์ 5) อาทิ กล่อง/ถาดอาหารสำเร็จรูป ถ้วยโยเกิร์ต กล่องไอศกรีมแช่แข็ง ตะกร้าขนมจีน แก้วน้ำพลาสติก ทั้งแบบใสและแบบขุ่น ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวโครงการฯ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ และจุด Drop Point ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ รวมถึงจุด Drop Point ของแพลตฟอร์ม “PP Reborn” อีก 6 แห่ง มีปริมาณบรรจุภัณฑ์พลาสติก PP ใช้แล้วหลั่งไหลเข้าสู่โครงการฯ เป็นจำนวนมาก
โดยมาจากที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศและจุด Drop Point ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่กว่า 900 กิโลกรัม และจากจุด Drop Point ของแพลตฟอร์ม “PP Reborn” อีก 589 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น 1,489 กิโลกรัม เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 1,535.16 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) โดยบรรจุภัณฑ์พลาสติก PP ใช้แล้วทั้งหมดนี้ จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นเม็ดพลาสติก PP รีไซเคิล เพื่อผลิตเป็นกล่องชุดสีน้ำต่อไป
ที่สำคัญที่สุดคือขอขอบคุณประชาชนทั่วประเทศที่ร่วมบริจาคบรรจุภัณฑ์พลาสติก PP ใช้แล้วเข้าโครงการฯ ความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ถูกนำไปฝังกลบที่ปลายทาง ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่การศึกษาไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาทักษะด้านการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนในถิ่นทุรกันดารอีกด้วย
แผนกกิจการสาธารณะและความยั่งยืน
สำนักกิจการและสื่อสารองค์กร
No comments:
Post a Comment