เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่ง SME เปิดพื้นที่และโอกาสทางธุรกิจ จัดเวทีเสวนา SME BRAND UP! : สร้างแบรนด์ให้มีพลัง ปังอย่างถูกลิขสิทธิ์ โดย นักวิชาการ สถาบันการเงิน ผู้แทนจากสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เจ้าของแบรนด์ SME ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงร้านค้าในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ที่มีการสร้างแบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ร่วมเสวนาในงาน ตลาดส่งสุข SMEs ของดีทั่วไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้
นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการภายในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ที่มีร้านค้ารายย่อยมากกว่า 1,000 ร้านค้า รวมถึงผู้ที่สนใจเริ่มต้นทำธุรกิจจะได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ พัฒนาสินค้าของตัวเอง ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ
โดยมีวิทยากรมากประสบการณ์ร่วมเสวนา ดังนี้ คุณทอปัด สุบรรณรักษ์ อาจารย์พิเศษ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด คุณพงศธร ดิษยบุตร ผู้จัดการ financial credit บริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานเขตธัญบุรี คุณสุทธิวรรณ อมาตยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายเพิ่มมูลค่าผลผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ SMEs สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาด กลาง และขนาดย่อม (ISMED) ผู้ประกอบการ SME ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ นำโดย ดร.ณัฐนรินทร์ เนียมประดิษฐ์ CEO LEAN Business Design Thailand และ The Music Building Group คุณญาณิศา เชษฐโชติวนิช CEO หจก. เอ็มบี อินสปาย โกลบอล ธุรกิจสุขภาพ ความงาม เครื่องมือแพทย์ คุณวิรัญชนา เรืองนภารัตน์ CEO Cottalogs กระเป๋าแฟชัน และ คุณบุษณี จุลเจริญนนท์ เจ้าของแบรนด์เสื้อยืด PUNK BERRY ที่มีร้านอยู่ในเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สินค้าเป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก
จากธุรกิจเล็ก ๆ สู่แบรนด์ใหญ่ ซึ่งเผยเคล็ดลับสร้างแบรนด์ที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร ดังนี้
คุณญาณิศา เชษฐโชติวนิช CEO หจก. เอ็มบี อินสปาย โกลบอล ดำเนินธุรกิจสุขภาพ ความงาม เครื่องมือแพทย์ กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเกิดจากความฝันของวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่เติบโตไปทั่วโลก และสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็มีโอกาสได้กระโดดลงไปทำแบรนด์เสื้อผ้า ได้จับเงินหลักครึ่งแสนและเห็นว่าโลกออนไลน์เปิดกว้าง เป็นช่องทางเกิดรายได้และสร้างยอดขายมหาศาล ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ก็ต่อยอดมาจากการได้ไปฟังสัมมนา สิทธิบัตรเครื่องมือแพทย์จึงเกิดไอเดีย เราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี มีรูปร่างที่ดี มีใบหน้าที่ดีขึ้นได้ด้วยเครื่องมือแพทย์”
“เมื่อเราเป็นบริษัทเล็ก ๆ การจะสื่อสารให้ผู้คนมองเห็นสินค้าของเราในช่วงแรก ๆ จึงค่อนข้างไม่ง่าย ช่วงแรกจะมีช่วงที่เราอาจจะยังไม่ได้ในสิ่งที่เราอยากได้ นั่นคือคำว่ากำไร แต่เราอดทนและทำมันอย่างต่อเนื่อง เข้าถึงลูกค้าด้วยการทำการตลาด ทำโฆษณา ให้ทดลองสินค้าและให้ลูกค้าโพสต์รีวิวเกิดการบอกต่อ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่าแบรนด์สามารถไปต่อได้ คือ เกิดผลลัพธ์จริงกับลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้าบอกต่อ Social Routh ตรงนี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราเติบโตต่อไปได้จนถึงทุกวันนี้”
คุณบุษณี จุลเจริญนนท์ เจ้าของร้านและแบรนด์ PUNK BERRY ที่มีร้านอยู่ชั้น 3 โซน A ในเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ของตัวเองเริ่มมาจากการเป็นคนที่ชอบแต่งตัว จึงอยากจะทำเสื้อผ้าให้ทุกคนได้สวมใส่เหมือนเรา ซึ่งกว่าจะเป็นแบรนด์ PUNK BERRY ก็ผ่านการพัฒนาแบรนด์มา 4-5 แบรนด์แล้วค่ะ จนมาถึงแบรนด์ PUNK BERRY ที่ทำมา 18 ปีแล้วค่ะ เรามีการจดลิขสิทธิ์ สร้างแบรนด์ เราอยากให้ทุกคนได้เห็นแบรนด์ไทย ผลงานที่เราผลิตเอง ตัดเย็บเอง ทำเองในประเทศ”
“PUNK BERRY มีทั้งหมด 10 สาขา และขายออนไลน์ผ่าน www.punkberryth.com ส่งทั่วโลกค่ะ ลูกค้าส่วนใหญ่ 80 % เป็นต่างชาติ มาจากฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ดูไบ อิตาลี เยอรมัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เป็นลูกค้าเราทั้งหมด ลูกค้าชอบมาที่ร้านเพราะได้จับเนื้อผ้า เราให้ความสำคัญกับบริการก่อนและหลังการขาย ลูกค้าเอาของมาเปลี่ยนก็ต้องได้รับบริการที่ดี”
“ลายของสินค้าเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นมีดีไซน์ไม่เหมือนใคร เราออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน รวมถึงมีความหลายหลายของสินค้า ราคา สามารถใส่ได้ทั้งครอบครัว มีสินค้าตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ใส่ได้ทุกโอกาส มีทั้งลวดลายน่ารัก ๆ สัตว์เลี้ยง แนวญี่ปุ่นก็มี และลวดลายประยุกต์มีความเป็นไทย เช่น ช้าง มวยไทย ตุ๊กตุ๊ก วัด และ อาหารไทย เป็นของที่ระลึกจากประเทศไทย จับกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ ออกแบบแพคเกจจิ้ง เวลาลูกค้ามาซื้อก็เดินออกไปพร้อมกับถุงสีแดง มีชื่อแบรนด์ ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี ลูกค้าตามมาจากรูปในโซเชียล เสื้อสวย แพคเกจจิ้งเลิศ”
“การสร้างแบรนด์จะต้องหาความเป็นตัวเอง หาสิ่งที่ตัวเองถนัด อย่างคนที่จะสวมใส่ PUNK BERRY จะเป็นคนที่แต่งตัวเก่ง ชอบอะไรที่มาก ดูอลังการ สวมใส่แล้วเย็นสบาย คุณภาพแน่น สินค้าดี แพคเกจเปลี่ยนตลอดตามเทรนด์ให้ลูกค้าพอใจและกลับมาซื้อซ้ำ ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าว่าชอบดีไซน์แบบไหน ไม่ชอบแบบไหน แบบไหนที่ลูกค้าชอบก็ผลิตออกมามากหน่อย มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง การทำธุรกิจต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลาค่ะ”
คุณวิรัญชนา เรืองนภารัตน์ CEO และ เจ้าของแบรนด์กระเป๋าแฟชั่น Cottalogs กล่าวว่า “เริ่มต้นขายของออนไลน์มาตั้งแต่เรียนมัธยม เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ถือเป็นยุคเริ่มต้นของธุรกิจออนไลน์ ช่วงเริ่มต้นทำสินค้าแฮนด์เมดทำกับคุณแม่ เปลี่ยนสินค้ามาหลายอย่าง ทั้งกระเป๋า กิ๊ฟช็อป สินค้าซื้อมาขายไป จนต้องการขายสินค้าที่ขายง่ายและมีมาร์จิ้นเยอะขึ้นจึงเป็นที่มาของกระเป๋าแฟชั่นที่เราผลิตและสร้างแบรนด์จำหน่ายจนถึงปัจจุบันช่องทางหลัก Shopee IG TikTok ลูกค้าเราเป็นกลุ่มสาว ๆ วัยเรียน วัยทำงานเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญ”
“มีตั้งคำถามว่ากระเป๋ามีเยอะแยะ คนจะมาซื้อเราไหม แต่เราก็มองเห็นว่าประชากรไทยมีหลายสิบล้านคน ยึดหลักว่าไม่ต้องเป็นลูกค้าเราทุกคน ขอแค่ 1 % ก็พอใจแล้ว และผู้หญิงช้อปปิ้งเก่งมาก กระเป๋า 1 ใบยังไม่พัง แต่เบื่อแล้วก็ซื้อใหม่ เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ เราทำไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเข้าใจลูกค้าว่าชอบแบบไหนก็จะผลิตแนวนั้น ก็จะมีกลุ่มลูกค้ารองรับ”
“สำหรับการเริ่มผลิตสินค้า ขอแค่มีคนทำยังไม่เยอะและสามารถแทรกเข้าไปในจุดนั้นได้ รู้ว่าทำไมลูกค้าต้องซื้อสิ่งนี้กับร้านเรา ถ้าตอบตัวเองตรงนี้ได้ ทำขายเลย ยังไงก็มีคนซื้อ ขอแค่อย่าหยุดทำ ทำไปเรื่อย ๆ ยุคนี้เป็นยุคของการรีวิว บางทีลูกซื้อ แล้วแม่ใช้ด้วยหรือกลับมาซื้อให้แม่ กลุ่มนักศึกษา บางทีเพื่อน ๆ เห็นก็บอกปากต่อปาก ยุคโซเชียลมี affiliate marketing ถ้ารีวิวติด link สินค้าจะได้ค่าคอมมิชชัน 5-10 % สินค้าขายดีจากการรีวิวของลูกค้าที่ใช้จริง บางสีขายดีมากจนมีผลต่อสต๊อกที่เราใช้โรงงานในไทยผลิต เหมือนธุรกิจในครัวเรือน จึงต้องมีหลายแผนไว้รองรับวิกฤติสินค้าขาดสต๊อก”
ดร.ณัฐนรินทร์ เนียมประดิษฐ์ CEO LEAN Business Design Thailand และ The Music Building Group กล่าวว่า “ธุรกิจแรกที่ทำเป็นโรงเรียนดนตรี ปัจจุบันมีโรงเรียนอยู่ในเครือทั้งหมด 48 โรงเรียน ปีหน้าจะครบรอบ 30 ปี เป็นโรงเรียนดนตรีที่มีลักษณะพิเศษ เป็น Business Model อีกแบบที่ไม่แข่งกับแบรนด์ใหญ่ ๆ เป็นมดตัวน้อย ๆ ขยับไปตาม SME แต่ก็ขยายมาได้นะครับ เมื่อเรามีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว เราสามารถต่อยอดธุรกิจ การนำแบรนด์ การใช้ Data ที่มีอยู่มาทำอีกแบรนด์และสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันได้ สำหรับการสร้างแบรนด์ ลูกค้าจะมาซื้อซ้ำด้วย Function การสื่อสารเรื่องคุณค่าของแบรนด์จึงต้องชัดเจน สำหรับกระบวนการปรับรูปแบบธุรกิจ ทุกธุรกิจในช่วงโควิดเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง โควิดเปลี่ยนวิธีคิด transform ตลาด ผมเชื่อว่าคนไทยเก่ง เอาตัวรอดผ่านวิกฤติได้ครับ”
คุณทอปัด สุบรรณรักษ์ อาจารย์พิเศษ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวถึงการสร้างแบรนด์ว่า “แบรนด์ คือ สิ่งที่เราอยากให้คนพูดถึง Brand Value คือ กล่องของขวัญ หรือ คุณค่าที่เราอยากมอบให้ลูกค้า พันธสัญญาของแบรนด์ Brand Promise ภาษาง่าย ๆ ก็คือ ตรงปก และ วัดผลได้ ทั้ง Function และ Emotion อย่างแอร์ เอเชีย เมื่อ 10 ปีที่แล้วมีการทำวิจัยว่ามีปัจจัยอะไรในการเลือกสายการบิน ลูกค้าเลือกราคาและเส้นทาง ความสะดวกสบาย และสิ่งที่ติดอันดับท็อป 10 ก็คือ การตรงต่อเวลา และเราก็รู้ว่าเราทำสิ่งนี้ได้ เราวัดผลได้ ก็เริ่มเอาเรื่องนี้ออกไปสื่อสารภายนอก โดยโฆษณาและทำระบบภายใน ทำคนให้มีวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้ตรงเวลาได้ตลอด เราบอกว่าเราจะมีพันธสัญญาของแบรนด์ คนข้างนอกก็เริ่มให้คุณค่า เริ่มมีหลาย ๆ สถาบันมาบอกว่าเราตรงเวลาที่สุดในเอเชียและที่ 3 ของโลก ตอนนี้เราก็เริ่มสื่อสารให้หนักขึ้น จนถึงยุคที่มีแฮชแท็กว่าแอร์เอเชียสนับสนุนให้คนไทยตรงต่อเวลา กลายเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเราก็ต้องตรงต่อเวลา ทำให้ได้ตามพันธสัญญาของแบรนด์ จุดแข็งของ SME ไทย คือ รู้ว่าตัวเองเก่งอะไร ถนัดอะไร จะลงไปเล่นในตลาดไหนก็จะอยู่ได้ยาว SME ไทยรู้ตัวเองจึงเป็น SME ที่เข้มแข็งค่ะ”
คุณสุทธิวรรณ อมาตยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายเพิ่มมูลค่าผลผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์ SMEs สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาด กลาง และขนาดย่อม (ISMED) กล่าวว่า “ISMED อยู่สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ภารกิจของเรา คือ พัฒนา SME ในหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นการให้ความรู้ เติมความสามารถด้านการแข่งขัน เราปั้นผู้ประกอบการมาค่อนข้างเยอะ เรามีกิจกรรมเตรียมความพร้อม SME ทั้งเทรนนิ่ง ให้ความรู้ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี สนับสนุนตลาด ให้ความสำคัญกับการตลาดและมาตรฐานการผลิต ระบบลอจิสติกส์ เรายังมีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ให้บริการ SME ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรือ Business Matching ค่ะ”
“SME ตัวเล็ก มีจุดแข็ง คือ คล่องตัว ไว ปรับตัวได้ ล้มและลุกเร็ว จุดอ่อนก็มี 4 M Money เงินทุนไม่ค่อยเยอะ Man บุคลากรไม่ได้มาก Method กระบวนการอาจจะไม่ได้ซับซ้อน Meterial ก็หาได้ยาก ดังนั้นต้องจับ Niche ให้ได้ เราไม่ได้เก่งทุกด้าน แต่ในซอยเราต้องเก่งที่สุด สินค้าดี ราคาดี อินโนเวชันไม่จำเป็นต้องเทคโนโลยีจ๋า แต่ต้องมีการคิดใหม่ทำใหม่ อีกสิ่งคือ Network เราสามารถแชร์ Know How แบ่งปันความรู้กันได้ เครือข่ายสำคัญมาก ๆ เพราะว่า SME ตัวเล็ก เราต้องบินกันเป็นฝูง พึ่งพากันได้ SME ไทยรอดแน่ เพราะว่าทุกยุคทุกสมัยที่มีวิกฤติ สักพักจะมี SME เก่ง ๆ เกิดขึ้นเสมอ อยู่ที่มุมมองและการหาช่องว่างว่าจะแจ้งเกิดตรงไหน มองหาลูกค้าใหม่และกอดกลุ่มลูกค้าเดิมให้แน่น สินค้าเดิมขายไม่ได้ก็หาเซกเมนต์ใหม่ แบรนด์ดิ้งก็เป็นสิ่งสำคัญ ในวิกฤติ แม้ว่าเราลดต้นทุน แต่คุณภาพยังต้องดี”
ติดตามกิจกรรมและโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ที่ https://www.mbk-center.co.th/ หรือ เฟซบุ๊กเพจ mbkcenterth อินสตาแกรม mbkcenter
##
#MBKCenter #ตลาดส่งสุขSMEsของดีทั่วไทย #SMEBRANDUPสร้างแบรนด์ให้มีพลังปังอย่างถูกลิขสิทธิ์
No comments:
Post a Comment