เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 นายบัญชา ยืนยงจงเจริญ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล หารือกับนายโช มุน กิ ผู้อำนวยการกองสืบสวนระหว่างประเทศ กรมศุลกากรสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลีในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการลดจำนวนคนไทยที่กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษในสาธารณรัฐเกาหลี นางกันติชา ไหลเจริญกิจ หัวหน้าฝ่ายกงสุลเข้าร่วมหารือด้วย...
สถานเอกอัครราชทูตฯ รับทราบจากกรมศุลกากรสาธารณรัฐเกาหลีว่า ที่ผ่านมา มีคนต่างชาติรวมทั้งคนไทยนำยารักษาโรคต่างๆ อาทิ Travan, Glycoff, Iyafin, Bronpect-D, Neo-Codion, Propofan และ Codesia เข้ามาในสาธารณรัฐเกาหลี..
โดยยาพวกนี้อยู่ในกลุ่ม ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาคลายเครียด ที่มีส่วนผสมของสารเสพติดตามกฎหมายของสาธารณรัฐเกาหลีเข้าประเทศสาธารณรัฐเกาหลี โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือโดยเจตนา ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายของสาธารณรัฐเกาหลี โดยมีโทษหนักสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี ชำระค่าปรับไม่เกิน 100 ล้านวอน (ประมาณ 2.3 ล้านบาท).
สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอเตือนคนไทย ให้หลีกเลี่ยงนำยาตามรายการดังที่แนบมานี้เข้ามาสาธารณรัฐเกาหลี เพราะมีบทลงโทษรุนแรง และผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์ในสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อขอรับยาที่มีคุณสมบัติรักษาโรคเดียวกันได้...สถานเอกอัครราชทูตฯ เสนอให้กรมศุลกากรฯ แจ้งให้สายการบินทั้งหมด 10 แห่ง ที่เปิดเส้นทางบิน ไทย-สาธารณรัฐเกาหลี แจ้งเตือนผู้โดยสารก่อนเช็คอินขึ้นเครื่องบินจากไทยมาสาธารณรัฐเกาหลีด้วย..
No comments:
Post a Comment